ปรับปรุงการนำทางบนไซต์ให้ง่ายขึ้น


การนำทางคือสิ่งที่สำคัญมากสำหรับเครื่องมือค้นหา

การนำทางของเว็บไซต์คือสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาเนื้อหาที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและยังช่วยให้เครื่องมือค้นหาสามารถเข้าใจเนื้อหาส่วนไหนที่เว็บมาสเตอร์คิดว่ามีความสำคัญ แม้ว่าการค้นหาของ Google จะแสดงหน้าเว็บที่คุณต้องการอยู่แล้ว แต่ Google ยังต้องการเข้าใจบทบาทของหน้าดังกล่าวโดยรวมด้วย

ใช้หน้าแรกเป็นหลักในการนำทาง

ทุกเว็บไซต์ควรมีหน้าแรกหรือหน้าที่เป็น "root" ซึ่งโดยปกติจะเป็นหน้าที่มีผู้เข้าชมบ่อยที่สุด และเป็นจุดเริ่มต้นในการนำทางผู้เข้าชม แต่หากว่าไซต์ของคุณมีเพียงไม่กี่หน้า สิ่งที่คุณควรคำนึงก็คือผู้เข้าชมจะเปลี่ยนจากหน้าหลัก (หน้าแรกของคุณ) ไปหน้าอื่นๆ อย่างไร คุณมีหน้าเว็บสำหรับข้อมูลอื่นๆ มากพอที่จะสร้างหน้าเว็บใหม่อีกอันเพื่อแสดงหน้าเว็บเหล่านี้หรือไม่(เช่น หน้าแรก -> หน้าสำหรับหัวข้อที่เกี่ยวข้อง -> หน้าสำหรับหัวข้อนั้นๆ) หรือคุณมีผลิตภัณฑ์หลายร้อยรายการที่จำเป็นต้องแยกหน้าเว็บออกเป็นกลุ่มๆ และหมวดหมู่ย่อยๆ หรือไม่

ใช้ "รายการแสดงเส้นทาง" เพิ่มความสะดวกแก่ผู้ใช้

การแสดงเส้นทางหรือ Breadcrumb คือเส้นทางลิงก์ภายในหน้าเว็บมักจะอยู่ด้านบนหรือด้านล่างของหน้าเว็บ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถย้อนกลับไปยังหน้าก่อนหน้าหรือหน้าแรกได้ (1) โดยส่วนใหญ่จะแสดงหน้าหลัก (หน้าแรก) หรือลิงก์แรกทางซ้ายสุดและแสดงหน้าต่อๆ ไปทางด้านขวาเป็นลำดับ

(1) ลิงก์รายการแสดงเส้นทางจะแสดงเมื่อคุณเปิดเข้าไปดูเนื้อหาที่อยู่ลึกๆ ในไซต์


     อภิธานศัพท์     

404 (ข้อผิดพลาด "page not found")
รหัสสถานะ HTTP (ดูหน้า 12) หมายถึงเซิร์ฟเวอร์ไม่พบหน้าเว็บที่เบราว์เซอร์ร้องขอ

แผนผังไซต์ XML
คือรายการหน้าเว็บทั้งหมดของเว็บไซต์ คุณสามารถใช้แผงผังไซต์ XML แจ้งข้อมูลทั้งหมดบนไซต์ให้ Google ทราบ ซึ่งรวมถึง URL ที่ Google อาจตรวจไม่พบในระหว่างรวบรวมข้อมูลแบบปกติ



เตรียมแผนรับมือเมื่อผู้ใช้ลบบางส่วนของ URL ออก

คุณคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นหากผู้ใช้ลบบางส่วนของ URL ออกไป ผู้ใช้อา จเข้าไปใช้หน้าที่ผิด คุณควรเตรียม รับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ไว้ด้วย ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้อาจลบบางส่วนของ URL ออก เพราะนึกว่าเขาจะ สามารถไปที่หน้าหลักได้ แทนที่จะใช้รายการแสดงเส้นทางเพื่อกลับไปหน้าหลัก ผู้ใช้อาจกำลังเปิด http://www.example.com/news/2012/upcoming-bakery-fair.html จากนั้นก็ตัดบางส่วนของ URL ออก เหลือเพียง http://www.example.co m/news/2010/ เพราะคิดว่า URL นั้นจะแสดงข่าวทั้งหมดจากปี 2010 (2) ไซต์ของคุณจะแสดงเนื้อหาตามตัวอย่างข้างบน หรือจะแสดงหน้า 404 (ข้อผิดพลาด "page not found") แล้วหากผู้ใช้ลบเหลือเพียง http://www.example.com/news/ คุณจะทำอย่างไร


จัดเตรียมแผนผังไซต์ไว้สองชนิด ชนิดแรกสำหรับผู้ใช้ และชนิดที่สองสำหรับเครื่องมือค้นหา

แผนผังไซต์ (site map ที่เขียนด้วยตัวพิมพ์เล็ก) คือหน้าเว็บที่แสดงโครงสร้างของเว็บไซต์ประกอบด้วยรายการโครงสร้างของไซต์ตามลำดับขั้น ผู้ใช้มักจะไปที่หน้านี้ หากมีปัญหาในการค้นหาหน้าเว็บ วัตถุประสงค์หลักของแผงผังไซต์คือการให้ข้อมูลกับผู้ใช้ แต่เครื่องมือค้นหาก็อาจไปรวบรวมข้อมูลในหน้านี้ด้วย

ไฟล์แผนผังไซต์ XML (Sitemap ที่เขียนด้วยตัวพิมพ์ใหญ่) ซึ่งคุณสามารถส่งผ่านเครื่องมือสำหรับเว็บมาสเตอร์ของ Google จะช่วยให้ Google สามารถค้นหาหน้าเว็บบนไซต์ได้ง่ายขึ้น การใช้ไฟล์แผนผัง ไซต์คือวิธีการหนึ่ง (แม้ว่าจะไม่มีการรับประกัน) ในการบอกให้ Google ทราบว่า URL ไหนที่คุณต้องการ ใช้ (เช่น http://example.com/ หรือ http://www.example.com/ โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่โดเมนที่ต้องการคืออะไร) Google ได้สร้างสคริปต์โปรแกรมสร้างแผนผังไซต์แบบโอเพนซอร์สเพื่อช่วยคุณในการสร้างไฟล์ แผนผังไซต์ หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนผังไซต์ คุณสามารถดูคู่มือเกี่ยวกับไฟล์แผนผังไซต์ได้ในศูนย์ช่วยเหลือของเว็บมาสเตอร์

(2) ผู้ใช้สามารถไปยังไดเรกทอรีที่สูงกว่า โดยลบข้อความส่วนท้ายของ URL


ภาพข้างบนเป็นตัวอย่างของแผนผังไซต์ HTML และ XML แผนผังไซต์ HTML ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาเนื้อหาที่ต้องการได้ง่ายขึ้น ใน ขณะที่แผนผังไซต์ XML จะช่วยเครื่องมือค้นหาในการค้นหาหน้าเว็บบนไซต์ของคุณ


     ลิ้งก์     

เครื่องมือเว็บมาสเตอร์
- https://www.google.com/webmasters/tools/

โดเมนที่ต้องการคืออะไร
- http://www.google.com/support/webmasters/bin/answer.py?answe r=44231

สคริปต์โปรแกรมสร้างแผนผังไซต์
- http://code.google.com/p/googlesitemapgenerator/

คู่มือเกี่ยวกับไฟล์แผนผังไซต์
- http://www.google.com/support/webmasters/bin/answer.py?answe r=156184


แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด


สร้างลำดับขั้นตอนการนำเสนอเนื้อหาให้ต่อเนื่องเป็นธรรมชาติ

การจัดลำบเนื้อหาควรทำออกมาให้ง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเริ่มจากเนื้อหาทั่วๆ ไป ค่อยๆ ไปถึงเนื้อหาที่เฉพาะที่ผู้ใช้ต้องการดูบนไซต์ ควรเพิ่มหน้าการนำทางในกรณีที่เหมาะสม ลองคิดว่าจะนำไปใช้กับโครงสร้างลิงก์ภายในให้มีประสิทธิภาพอย่างไร
หลีกเลี่ยง:
  • การสร้างเว็บที่มีลิงก์นำทางที่สลับซับซ้อน เช่น การใช้ลิงก์ในทุกๆ หน้าของไซต์และลิงก์ไปหน้าภายในอื่นๆ
  • การนำเสนอข้อมูลแบบวกไปวนมา (เพื่อให้ผู้ใช้คลิกดูข้อมูลต่างๆ

เน้นการใช้ลิงก์ข้อความในการนำทาง

เครื่องมือค้นหาสามารถรวบรวมข้อมูลและเข้าใจไซต์ของคุณได้ง่ายขึ้น หากใช้ลิงก์ข้อความในการนำทางจากหน้าหนึ่งไปยังอีกหน้าหนึ่ง ผู้ใช้โดยส่วนใหญ่ก็ชอบวิธีการนี้มากกว่าวิธีการอื่นๆ เนื่องจากอุปกรณ์บางอย่างไม่รอง รับ Flash หรือ JavaScript
หลีกเลี่ยง:
  • การใช้เมนูแบบเลื่อนลง รูปภาพ หรือภาพเคลื่อนไหวเพียงอย่างเดียว
        - เครื่องมือค้นหาโดยส่วนใหญ่จะสามารถค้นหาลิงก์บนไซต์ได้ แต่หาผู่ใช้สามารถเข้าถึงหน้าเว็บผ่านลิงก์ข้อความไซต์ของคุณจะมีการเข้าถึงที่ดียิ่งขึ้น โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Google จัดการไฟล์ที่ไม่ใช่ข้อความอย่างไร

     อภิธานศัพท์     

Flash
เว็บเทคโนโลยีหรือซอฟต์แวร์ที่พัฒนาโดย Adobe Systems Incorporated ซึ่งสามารถสร้างเว็บทั้งในรูปแบบเสียง วิดีโอ และภาพ เคลื่อนไหว

JavaScript
ภาษาโปรแกรมยอดนิยมชนิดหนึ่งสำหรับเว็บบริการ ซึ่งสามารถเพิ่มคุณลักษณะแบบไดนามิกให้กับหน้าเว็บได้

เมนูแบบเลื่อนลง
ช่วยให้ผู้ใช้เลือกรายการจากเมนู เมื่อคลิกที่เมนูจะมีรายการตัวเลือกปรากฏในลักษณะแบบเลื่อนลง

ความสามารถในการเข้าถึง
ผู้ใช้และเครื่องมือค้นหาสามารถเข้าถึงและทำความเข้าใจเนื้อหา

ประสบการณ์ของผู้ใช้
ประสบการณ์ที่ผู้ใช้ได้รับผ่านการใช้ผลิตภัณฑ์ บริการ ฯลฯ ซึ่งจะเน้นประสบการณ์ที่ผู้ใช้ได้รับจริง เช่น "พึงพอใจ" "สะดวก" และ "สบาย"

รหัสสถานะ HTTP
รหัสการตอบกลับจากเซิร์ฟเวอร์เมื่อคอมพิวเตอร์มีการส่งข้อมูลถึงกัน โดยใช้ตัวเลขสามหลักที่ให้ความหมายแตกต่างกัน


แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด


เพิ่มหน้าแผนผังไซต์ HTML และใช้ไฟล์แผนผังไซต์ XML

คุณควรใช้หน้าแผนผังไซต์เรียบๆ ที่แสดงลิงก์สำหรับหน้าเว็บทั้งหมดหรือหน้าเว็บที่สำคัญ (หากคุณมีหน้าเว็บมาก) และการสร้างไฟล์แผนผังไซต์ XML ก็จะ ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าเครื่องมือค้นหาจะพบหน้าเว็บต่างๆ บนไซต์
หลีกเลี่ยง:
  • การไม่อัปเดตหน้าแผนผังไซต์ HTML จนมีลิงก์ที่ใช้งานไม่ได้
  • การสร้างแผนผังไซต์ HTML ที่แสดงรายการหน้าเว็บที่วุ่นวาย คุณควรทำการแยกออกตามชื่อเรื่อง เป็น

ใช้หน้า 404 ให้เป็นประโยชน์

บ่อยครั้งที่ผู้ใช้อาจจะไปยังหน้าที่ไม่มีอยู่บนไซต์โดยบังเอิญจากการคลิกลิงก์ที่ใช้งานไม่ได้ หรือพิมพ์ URL ที่ไม่ถูกต้อง การมีหน้า 404 แบบกำหนดเองจะช่วยนำทางให้ผู้ใช้กลับไปยังหน้าที่ใช้งานได้ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานให้ดียิ่งขึ้น หน้า 404 ควรมีลิงก์ที่นำกลับไปหน้าแรก และลิงก์ที่นำไปยังเนื้อหาที่ได้รับความนิยมหรือเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง Google มี วิดเจ็ต 404 ที่คุณสามารถฝังไว้ในหน้า 404 เพื่อแสดงหน้าดังกล่าวโดยอัตโนมัต ิ พร้อมกับคุณ ลักษณะอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์อีกมากมาย คุณยังสามารถใช้เครื่องมือสำหรับเว็บมาสเตอร์ของ Google ในการค้นหาแหล่งที่มาของ URL ที่ทำให้เกิดข้อผิด พลาด "not found" ได้อีกด้วย
หลีกเลี่ยง:
  • การให้เครื่องมือค้นหาทำดัชนีหน้า 404 ของคุณ (ตรวจสอบว่ามีการกำหนดค่าให้เว็บเซิร์ฟเวอร์ส่งรหัสสถานะ 404 HTTP เมื่อมีการขอแสดงหน้าเว็บที่ไม่มีอยู่)
  • การแสดงข้อความที่ไม่ชัดเจน เช่น "not found", "404" หรือไม่แสดง หน้า 404 เลย
  • การใช้หน้า 404 ที่มีการออกแบบที่ไม่สอดคล้องกับหน้าอื่นๆ ของไซต์
        - เครื่องมือค้นหาโดยส่วนใหญ่จะสามารถค้นหาลิงก์บนไซต์ได้ แต่หาผู่ใช้สามารถเข้าถึงหน้าเว็บผ่านลิงก์ข้อความไซต์ของคุณจะมีการเข้าถึงที่ดียิ่งขึ้น โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Google จัดการไฟล์ที่ไม่ใช่ข้อความอย่างไร

     ลิ้งก์     

Google จัดการไฟล์ที่ไม่ใช่ข้อความอย่างไร
- http://www.google.com/support/webmasters/bin/answer.py?answe r=72746

หน้า 404 แบบกำหนดเอง
- http://www.google.com/support/webmasters/bin/answer.py?answe r=93641

วิดเจ็ต 404
- http://googlewebmastercentral.blogspot.com/2008/08/make-your-40 4-pages-more-useful.html

แหล่งที่มาของ URL ที่ทำให้เกิดข้อผิดพลาด "not found"
- http://www.google.com/support/webmasters/bin/answer.py?answe r=156184

รหัสสถานะ 404 HTTP
- http://www.w3.org/Protocols/rfc2616/rfc2616-sec10.html


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น